แนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์ไทย 2024–2025: โตสวนกระแสด้วย Green Logistics และเทคโนโลยี

อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญในปี 2024-2025 ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แต่ก็เปิดโอกาสใหม่ด้วยเทคโนโลยีและแนวคิด Green Logistics ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการขนส่งอย่างรวดเร็ว

ภาพรวมการเติบโตของโลจิสติกส์ไทย 2024-2025

ปี 2024: การเติบโตท่ามกลางความท้าทาย

จากรายงานของ SCB EIC ชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยในปี 2024 มีการเติบโตของรายได้ +5.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญดังนี้:

• การฟื้นตัวของการค้าระหว่างประเทศหลังโควิด-19
• ปัญหาการขนส่งในทะเลแดงที่ทำให้เส้นทางขนส่งเปลี่ยนแปลง
• การขยายตัวของธุรกิจ E-commerce ที่เพิ่มความต้องการขนส่งพัสดุ
• การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนส่งของรัฐบาล

ปี 2025: คาดการณ์การเติบโตชะลอลง

สำหรับปี 2025 คาดว่าการเติบโตจะชะลอลงเหลือ +3.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจาค:

• เศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง
• ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อการค้าโลก
• การปรับโครงสร้างต้นทุนการดำเนินงาน

แนวโน้มอัตราค่าขนส่ง (Freight Rate) ปี 2024-2025

การคาดการณ์อัตราค่าขนส่งในแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน:

ขนส่งทางบกในประเทศ

อัตราค่าขนส่งรถบรรทุกภายในประเทศคาดว่าจะคงที่ เนื่องจากความต้องการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคและวัตถุดิบอุตสาหกรรมยังคงอยู่ในระดับสูง

ขนส่งทางอากาศ

ค่าขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศมีแนวโน้มคงที่ แต่อาจมีความผันผวนตามฤดูกาลและเหตุการณ์พิเศษ

ขนส่งทางทะเล

ค่าขนส่งทางทะเลคาดว่าจะลดลง เมื่อสถานการณ์การขนส่งโลกกลับสู่ภาวะปกติ และความจุของเรือขนส่งเพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันและผลกระทบ

ราคาน้ำมันคาดว่าจะลดลง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งโดยรวม และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์การบริหารต้นทุน

Green Logistics: แนวโน้มความยั่งยืนที่เปลี่ยนอุตสาหกรรม

Green Logistics หรือ การขนส่งเชิงนิเวศ กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ธุรกิจไม่สามารถมองข้ามได้ ตามแผนงาน Net Zero ของประเทศไทย ปี 2024-2030

เทคโนโลยียานพาหนะสะอาด

• รถบรรทุกไฟฟ้า: การใช้รถบรรทุกไฟฟ้าในการขนส่งระยะสั้น-กลาง
• เชื้อเพลิงทางเลือก: การใช้ไบโอดีเซลและก๊าซธรรมชาติ (NGV)
• การปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องยนต์: เทคโนโลยี Euro 6 และระบบ Hybrid

บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

• การใช้วัสดุรีไซเคิลในการบรรจุ
• การลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
• การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ใช้พื้นที่น้อยลง

พลังงานหมุนเวียนในคลังสินค้า

• การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาคลังสินค้า
• ระบบแสงสว่าง LED และการจัดการพลังงานอัจฉริยะ
• การใช้ระบบ WMS ที่ลดการสูญเสียพลังงาน

LogTech: เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโฉมหน้าการขนส่ง

เทคโนโลยีกำลังเข้ามาปฏิวัติวงการโลจิสติกส์ไทยในหลายมิติ:

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูล

• การพยากรณ์ความต้องการขนส่ง (Demand Forecasting)
• การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อวางแผนเส้นทาง
• การตรวจสอบคุณภาพสินค้าด้วย Computer Vision

ระบบ GPS และการติดตามแบบเรียลไทม์

• การติดตามตำแหน่งรถบรรทุกและสินค้าแบบ 24/7
• การแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อมีความผิดปกติ
• ระบบรายงานการเดินทางและการส่งมอบแบบละเอียด

การปรับเส้นทางอัจฉริยะ (Route Optimization)

• การคำนวณเส้นทางที่ประหยัดเวลาและเชื้อเพลิงที่สุด
• การปรับเส้นทางแบบเรียลไทม์ตามสภาพการจราจร
• การรวมจุดส่งมอบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ

• หุ่นยนต์คัดแยกและจัดเรียงสินค้า
• ระบบ WMS (Warehouse Management System) อัจฉริยะ
• การใช้ Barcode และ RFID ในการจัดการสต็อก

การเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม E-commerce

• การเชื่อมต่อ API กับร้านค้าออนไลน์
• ระบบจัดการคำสั่งซื้อแบบอัตโนมัติ
• การให้บริการ Last-mile delivery ที่รวดเร็ว

ภูมิทัศน์การแข่งขันในตลาดโลจิสติกส์ไทย

ตลาดโลจิสติกส์ไทยมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในทุกส่วน:

การขนส่งสินค้า (Freight Transport)

ผู้ให้บริการขนส่งรถบรรทุกแข่งขันกันในด้านราคา เวลา และคุณภาพการบริการ

การส่งต่อสินค้า (Freight Forwarding)

บริษัทตัวกลางขนส่งมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อผู้ส่งกับผู้ให้บริการขนส่ง

การส่งพัสดุ (Parcel Delivery)

ตลาด E-commerce ทำให้ธุรกิจส่งพัสดุเติบโตอย่างรวดเร็ว

ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร (Total Logistics Providers)

การรวมบริการขนส่งทางบก ทางอากาศ ทางทะเล และคลังสินค้าภายใต้หลังคาเดียวกัน เป็นแนวโน้มที่กำลังได้รับความนิยม

3 ความท้าทายสำคัญของธุรกิจโลจิสติกส์ปี 2025 เป็นต้นไป

1. การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจส่งผลต่อปริมาณการค้าและความต้องการขนส่ง ธุรกิจต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนของตลาด

2. แรงกดดันเรื่องการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์

นโยบาย Net Zero และความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมบังคับให้ธุรกิจต้องลงทุนในเทคโนโลยีสะอาดและปรับโมเดลธุรกิจ

3. การรบกวนจาก AI และระบบอัตโนมัติ

เทคโนโลยีใหม่เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน บริษัทที่ไม่ปรับตัวทันอาจสูญเสีย competitive advantage

กลยุทธ์การปรับตัวสำหรับธุรกิจ SME

1. ลงทุนในเทคโนโลยีและการมองเห็นข้อมูล

• นำระบบ GPS Tracking และ Fleet Management มาใช้
• ใช้ข้อมูลในการตัดสินใจเชิงธุรกิจ
• สร้างระบบรายงานที่แม่นยำและทันสมัย

2. สร้างพันธมิตรกับเครือข่าย E-commerce

• เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มขายออนไลน์ชั้นนำ
• พัฒนาขีดความสามารถด้าน Last-mile delivery
• สร้างบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า E-commerce

3. เปลี่ยนผ่านสู่การวางแผนยานพาหนะอย่างยั่งยืน

• ศึกษาการใช้รถยนต์ไฟฟ้าหรือเชื้อเพลิงทางเลือก
• ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง
• วางแผนการลงทุนระยะยาวเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

บทสรุป: อนาคตของโลจิสติกส์ไทย

แม้ว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยจะเผชิญกับความท้าทายจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่โอกาสในการเติบโตยังคงมีอยู่ ผ่านการปรับตัวสู่ Green Logistics และการใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด

ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในอนาคตจะเป็นผู้ที่สามารถสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจ ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

---

OMYAI TRANSPORT CO., LTD. พร้อมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในการนำ Green Logistics และเทคโนโลยีมาใช้ในการขนส่งสินค้าของคุณ ด้วยรถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ ที่ได้มาตรฐาน Q Mark และระบบติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ ติดต่อเราวันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาและใบเสนอราคาการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม